ความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่จำเป็นไม่น้อยสำหรับโลกไร้พรมแดนในยุคนี้ บริษัทในเมืองไทยมีทั้งบริษัทคนไทยที่ทำธุรกิจกับชาวต่างชาติ และบริษัทข้ามชาติที่ขยายสาขาเข้ามาในเมืองไทย บริษัททั้ง 2 ประเภทต่างก็ต้องการผู้ที่มีความสามารถฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างราบรื่น เพื่อที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมืออาชีพ ไม่ติดขัด หรือเกิดปัญหาในเรื่องการสื่อสาร ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณได้เข้าทำงานในบริษัทข้ามชาติ คุณจะได้พบกับภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ซึ่งถึงแม้จะเป็นคนไทยด้วยกัน ก็มักจะสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษเวลาส่งอีเมลหากัน บางเวลาคุยกันต่อหน้าหรือทางโทรศัพท์ก็มักจะได้ยินภาษาไทยปนอังกฤษตลอดเวลา
ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว คนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษล่ะจะมีโอกาสได้งานกับเขาบ้างหรือเปล่า
หากคุณไม่เก่งภาษาอังกฤษ แต่อยากจะได้งานดี ๆ ในบริษัทดัง ๆ สิ่งหนึ่งที่จะทำให้คุณได้งาน คือ คุณต้องมีทักษะเฉพาะทาง ที่ทำให้ตัวคุณโดดเด่นขึ้นมา และสามารถกลบข้อด้อยในเรื่องภาษาอังกฤษได้ เช่นงานในสายที่ไม่ต้องติดต่อกับต่างประเทศโดยตรง เช่น งานด้านกราฟิกดีไซน์ งานด้านสถาปัตยกรรม งานด้านวิศวกรรม งานด้านการบัญชี เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดี คุณจำเป็นต้องขวนขวายเรียนรู้เพิ่มเติมด้วย เพื่อที่จะสามารถปรับตัวอยู่ในองค์กรที่ให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษอย่างมากเช่นนี้ และหากต้องการให้การทำงานมีความก้าวหน้าและพัฒนาขึ้น คุณต้องฝึกภาษาอังกฤษเพิ่มเติมอย่างแน่นอน เพื่อให้สามารถอ่านตำรา หรืองานวิจัยภาษาอังกฤษได้ เพราะองค์ความรู้ส่วนมากมักจะพัฒนามาจากทางตะวันตก คุณจะเปิดโอกาสตัวเองสำหรับการเรียนรู้ที่กว้างไกลได้เพิ่มขึ้นด้วย
ดังนั้นไม่ว่าจะทำงานในตำแหน่งใด ในปัจจุบันภาษาอังกฤษมีความสำคัญอย่างมากในการทำงาน บริษัทข้ามชาติส่วนใหญ่กำหนดว่า ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องผ่านข้อกำหนดในเรื่องภาษาอังกฤษด้วย ตามมาตรฐานแล้วจะต้องมีคะแนน TOEIC (Test of English for International Communication) ไม่ต่ำกว่า 550 จึงจะถือว่าผ่านเกณฑ์ สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี
หากคุณพบว่าตัวเองช่างอ่อนด้อยเรื่องภาษาเหลือเกิน อย่าเพิ่งท้อแท้ใจ ทุกคนมีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาแล้วทั้งนั้นจากโรงเรียนอนุบาล ประถม มัธยม เพียงแต่ไม่มีโอกาสได้ฝึกฝนและใช้งาน คุณก็เลยยังไม่เก่งสักที การฝึกภาษาอังกฤษสามารถทำได้ด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องเสียสตางค์ลงเรียนตามสถาบันสอนภาษาราคาแพง เพราะภาษาอังกฤษมีอยู่ในชีวิตประจำวันของคุณอยู่แล้วทั้งการอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง แค่คุณตั้งใจ เอาจริงเอาจัง แล้วภาษาอังกฤษของคุณก็จะดีขึ้นเป็นลำดับ ลองทำตามคำแนะนำต่อไปนี้
พกดิกชันนารีหรือ Talking Dict. ติดตัวไปด้วยเสมอ ตามถนนหนทางมีป้ายโฆษณามากมายที่ใช้ภาษาอังกฤษ คุณอาจต้องฝึกให้ตัวเองเป็นคนช่างสังเกต และช่างสงสัยมากขึ้น เวลาเจอคำภาษาอังกฤษที่ไม่เข้าใจ ก็หยิบ Talking Dict. ขึ้นมาหาความหมาย เพื่อคลายสงสัยได้ทันที
เปลี่ยนคลื่นวิทยุ ลองเปลี่ยนจากคลื่นเพลงไทยสากลยอดนิยมมาฟังเพลงแบบอินเตอร์กันบ้าง การฟังเพลงภาษาอังกฤษเยอะ ๆ คุณจะได้ทั้งคำศัพท์ สำนวน และสำเนียง พยายามออกเสียงร้องตาม และทำความเข้าใจกับเนื้อเพลง และคำศัพท์สำนวนที่ใช้
สมัครสมาชิกเคเบิ้ลทีวี แล้วหันมาดูข่าวจาก BBC หรือ CNN เปลี่ยนจากละครหลังข่าวช่อง 3 5 7 9 มาเป็นซีรีส์ฝรั่งจะช่วยให้คุณซึมซับภาษาอังกฤษเข้าไปทีละเล็กทีละน้อย แต่น่าทึ่งกับความเปลี่ยนแปลงที่จะตามมา
ดูหนัง Soundtrack โดยไม่อ่าน Subtitle สำหรับวิธีนี้ถ้าไม่อยากเสียสตางค์ดูหนังในโรงภาพยนตร์ ซึ่งอาจทำให้เสียสตางค์ฟรีเพราะดูไม่รู้เรื่อง เแนะนำให้ซื้อแผ่นมาดูที่บ้าน ถึงช่วงไหนที่ฟังไม่ชัดเจน ไม่เข้าใจก็สามารถกดย้อนไปดูได้ตามสบาย อย่าลืมหัดออกเสียงให้ได้สำเนียงอินเตอร์ด้วย
อ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษอย่าง Bangkok Post หรือ Time Magazine จับใจความโดยอาศัยข้อความแวดล้อมและบริบท ไม่จำเป็นต้องรู้ความหมายทุกคำ เพราะบางครั้งสิ่งที่อ่านเป็นสำนวนที่ไม่ได้แปลตรงตัว ถึงแม้คุณจะรู้ความหมายทุกคำแต่ก็ไม่สามารถแปลออกมาได้อยู่ดี พยายามทำความเข้าใจว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไร แล้วจดจำสำนวนของเขามาใช้ได้ถูกต้อง
เหนือสิ่งอื่นใด เมื่อได้เรียนรู้แล้วต้องกล้าที่จะใช้ด้วย ไม่ใช่เจอฝรั่งแล้วคุณก็เดินหนี ก็เลยไม่มีโอกาสได้ใช้งานเสียที อย่ากลัวว่าจะพูดผิด เพราะผิดเป็นครูอยู่แล้ว
ถ้าคุณได้ใช้บ่อย ๆ คุณจะเรียนรู้ได้เองว่าที่ถูกเขาใช้กันอย่างไร และเมื่อนั้นคุณจะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจ ต่อไปภาษาอังกฤษก็จะไม่เป็นอุปสรรคในการหางานในฝันของคุณอีก