วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วันศิลปินแห่งชาติ

วันศิลปินแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เนื่องจากวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรี ผู้ทรงเป็นพระปฐมบรมศิลปินแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ด้วยทรงพระปรีชาสามารถในศิลปกรรมด้านต่างๆ หลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นด้านกวีนิพนธ์ ด้านประติมากรรม และด้านดนตรี ทั้งยังทรงเป็นองค์อุปถัมภก ทรงทำนุบำรุง ซ่อมแซมงานศิลปกรรมต่างๆ และทรงส่งเสริมเชิดชูศิลปินผู้มีฝีมือมาตลอดรัชสมัยของพระองค์อีกด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่นี้ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ประกาศให้วันที่ 2กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันศิลปินแห่งชาติ
พระปรีชาสามารถพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระปรีชาสามารถในศิลปกรรมด้านต่างๆ หลายสาขา ดังจะขอยกตัวอย่างต่อไปนี้
ด้านกวีนิพนธ์ ด้านปฏิมากรรม /ประติมากรรมพระองค์ท่านทรงส่งเสริมงานช่างด้านหล่อพระพุทธรูป และยังทรงปั้นหุ่นพระพักตร์ของพระพุทธธรรมิศรราชโลกธาตุดิลก พระประธานในพระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม อันเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญยิ่งองค์หนึ่งไทยด้วยพระองค์เอง นอกจากนี้แล้วยังทรงแกะสลักบานประตูพระวิหารพระศรีศากยมุนี วัดสุทัศน์ฯ คู่หน้าด้วยพระองค์เองร่วมกับกรมหมื่นจิตรภักดี และทรงแกะหน้าหุ่นหน้าพระใหญ่และพระน้อยที่ทำจากไม้รักคู่หนึ่งที่เรียกว่าพระยารักใหญ่ และพระยารักน้อยไว้ด้วย
ด้านดนตรีพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงมีพระปรีชาสามารถดนตรีเป็นอย่างสูง เครื่องดนตรีที่ทรงถนัดและโปรดปรานคือ ซอสามสาย เพลงพระราชนิพนธ์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีคือ เพลงบุหลันลอยเลื่อน หรือ บุหลัน(เลื่อน)ลอยฟ้า ต่อมามักจะเรียกว่า เพลงทรงพระสุบิน เพลงนี้จึงเป็นที่แพร่หลายจนรู้จักกันกว้างขวางถึงปัจจุบันเช่นกันผู้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทด้วยเห็นว่าประเทศไทยมีศิลปินในสาขาต่างๆ เป็นจำนวนมากที่ได้สร้างสรรค์ผลงานไว้ให้แก่ประเทศชาติ ทำให้ประเทศไทยได้รับการยกย่องจากนานาประเทศว่าเป็นประเทศที่มีอารยธรรมสูงส่ง ดังนั้น คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติจึงจัดให้มีโครงการศิลปินแห่งชาติขึ้น เมื่อพ.ศ. 2527 เพื่อจัดทำเนียบศิลปินทุกแขนงทั่วประเทศ และสรรหาบุคคลผู้สร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะด้วยความอุตสาหะ และมีผลงานปรากฏต่อสาธารณชนอย่างต่อเนื่องยาวนาน เพื่อยกย่องเกียรติคุณให้เป็นศิลปินแห่งชาติ คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติจะนำศิลปินแห่งชาติเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้แทนพระองค์ เพื่อรับพระราชทานเข็มและโล่เชิดชูเกียรติ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ของแต่ละปี ซึ่งกำหนดให้เป็นวันศิลปินแห่งชาติ
ทางราชการสนับสนุน ส่งเสริมให้จัดงานวันศิลปินแห่งชาติกันทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดที่มีศิลปินแห่งชาติสังกัดอยู่ โดยให้ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัด และศูนย์วัฒนธรรมอำเภอเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ศิลปินได้มีโอกาสเผยแพร่ผลงาน เพื่อส่งเสริมให้มีการสืบทอดความรู้ความสามารถของศิลปิน และเพื่ออนุรักษ์ศิลปะแขนงต่างๆเอาไว้ไม่ให้สูญหาย โดยเฉพาะศิลปะพื้นบ้าน งานวันศิลปินแห่งชาติจัดครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2529



นายเมธา บุนนาค
ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรม)
ประวัติชีวิต
นายเมธา บุนนาค ปัจจุบันอายุ ๖๑ ปี เกิดเมื่อวันที่ ๒๘
ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรคนที่ ๒ ในจำนวนพี่น้อง
๓ คน ของนายแพทย์มณเฑียร บุนนาค และนางนันทนา พลางกูร สมรสกับ
นางหลุยซ่า กา ฟุง บุนนาค (นามสกุลเดิม ชิค) มีบุตร ๑ คน คือ นายศมน บุนนาค

รางวัล และเกียรติคุณที่ได้รับ

พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้รับเลือกเป็นอันดับที่ 7 ในการประกวดแบบ Manila Architectural International Competition
เรื่อง Self-help Housing for the Low-Income Group ที่ Manila, ประเทศฟิลิปปินส์
จากจำนวนผู้ส่งประกวดแบบ ๔๘๐ ทีมทั่วโลก
Team Professor and Head Lye Kum-Chew (leader)
Hiroshi Okamoto, B. Arch. (Wasada University)
พ.ศ. ๒๕๒๙ ชนะเลิศการประกวดแบบ Urban Conservation at China Town ประเทศ สิงคโปร์
จาก Singapore Tourism Authority ประเทศสิงคโปร์
พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับรางวัล Best Hotel Design Award จาก Indonesian Institute of Architects
จากโครงการ Novotel Bukittinggi, West Sumatra, ประเทศอินโดนีเซีย
พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้รับรางวัล Conservation Award จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์
จากโครงการ Four Seasons Resort Chiang Mai, Chiang Mai, ประเทศไทย
พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณเพื่อเป็นเกียรติในฐานะศิษย์เก่าดีเด่นที่ได้สร้างคุณูปการ
และผลงานดีเด่นต่อสาธารณชน อันนำชื่อเสียงและความภาคภูมิใจมาสู่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
และศิษย์เก่าทั้งมวล จากสมาคมศิษย์เก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้รับคัดเลือกให้เป็น ศิษย์เก่าดีเด่น ประจำปี ๒๕๔๕ ประเภทผู้ประกอบวิชาชีพ
จากมหาวิทยาลัยศิลปากร
พ.ศ. ๒๕๔๖ได้รับเหรียญเกียรติคุณศิลป์ พีระศรีและได้รับคัดเลือกให้เป็นนักศึกษาเก่ายอดเยี่ยมในรอบ๖๐ ปี มหาวิทยาลัยศิลปากร ประเภทผู้ประกอบวิชาชีพ จากสมาคมศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยศิลปากร
พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้รับพระราชทานกิตติบัตรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ในฐานะที่เป็นสถาปนิกดีเด่นด้านวิชาชีพ
โดยการคัดเลือกของ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในวาระครบรอบ ๗๐ ปี
พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้รับรางวัล The Golden Award for Excellence in Architecture
จาก a+d & Spectrum Foundation Architecture Awards 2006 ที่ Kathmandu ประเทศเนปาล
พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้รับรางวัล Design for Asia Award 2009 -DFA Merit Recognition
ประเภท Hospitality and Leisure
จากโครงการ The Barai at Hyatt Regency Hua Hin, Hua Hin, ประเทศไทย
จาก Hong Kong DesignCentre (HKDC),ฮ่องกง
พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้รับรางวัลมงคลเกียรติยศ พระพรหมพิจิตร ด้านวิชาชีพ ประจำปีพ.ศ. ๒๕๕๓
เป็นผู้สร้างชื่อเสียง และเกียรติภูมิให้แก่ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

Soup

Soup is a generally warm food that is made by combining ingredients such as meat and vegetables with stock, juice, water, or another liquid. Hot soups are additionally characterized by boiling solid ingredients in liquids in a pot until the flavors are extracted, forming a broth. Traditionally, soups are classified into two main groups: clear soups and thick soups. The established French classifications of clear soups are bouillon and consommé. Thick soups are classified depending upon the type of thickening agent used: purées are vegetable soups thickened with starch; bisques are made from puréed shellfish or vegetables thickened with cream; cream soups may be thickened with béchamel sauce; and veloutés are thickened with eggs, butter, and cream. Other ingredients commonly used to thicken soups and broths include rice, lentils, flour, and grains; many popular soups also include carrots and potatoes.
Soups are similar to stews, and in some cases there may not be a clear distinction between the two; however, soups generally have more liquid than stews.

History
William-Adolphe Bouguereau Soup (1865)Evidence of the existence of soup can be found as far back as about 6,000 BC.[2] Boiling was not a common cooking technique until the invention of waterproof containers (which probably came in the form of clay vessels or pouches made of animal skin) about 9,000 years ago. Soup can be made out of broth or a form of liquid.
The word soup comes from French soupe ("soup", "broth"), which comes through Vulgar Latin suppa ("bread soaked in broth") from a Germanic source, from which also comes the word "sop", a piece of bread used to soak up soup or a thick stew.
The word restaurant (meaning "[something] restoring") was first used in France in the 16th century, to describe a highly concentrated, inexpensive soup, sold by street vendors, that was advertised as an antidote to physical exhaustion. In 1765, a Parisian entrepreneur opened a shop specializing in such soups. This prompted the use of the modern word restaurant to describe the shops.
In America, the first colonial cookbook was published by William Parks in Williamsburg, Virginia, in 1742, based on Eliza Smith's The Compleat Housewife; or Accomplished Gentlewoman's Companion and it included several recipes for soups and bisques. A 1772 cookbook, The Frugal Housewife, contained an entire chapter on the topic. English cooking dominated early colonial cooking; but as new immigrants arrived from other countries, other national soups gained popularity. In particular, German immigrants living in Pennsylvania were famous for their potato soups. In 1794, Jean Baptiste Gilbert Payplat dis Julien, a refugee from the French Revolution, opened an eating establishment in Boston called The Restorator, and became known as "The Prince of Soups". The first American cooking pamphlet dedicated to soup recipes was written in 1882 by Emma Ewing: Soups and Soup Making.
Portable soup was devised in the 18th century by boiling seasoned meat until a thick, resinous syrup was left that could be dried and stored for months at a time. The Japanese miso is an example of a concentrated soup paste.

วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Chiang Khan, Thailand

Situated in the northern part of Loei Province, Chiang Khan is the perfect postcard destination. This quaint little town is full of traditional timber houses and boasts a beautiful riverside location. This is natural location is a great place to unwind for a while or prepare to take a meditation course.
The village is easy to walk around and the many temples make good places to stop and explore. Wat Pa Klang is interesting as it is more than 100 years old, whilst Wat Mahathat is the village's oldest temple. Also worth visiting are Wat Santi, Wat Thatkhok, Wat Si Khun Meuang and Wat Tha Khaek. 12 kilometers to the east of Chiang Khan, the monastic centre of Samnak Song Phu Pha Baen is a great place for a day trip. Here you will witness the rare and unforgettable sight of monks meditating in caves and on tree platforms.
Another great day trip is the Tai Dam village of Ban Napanard, where you can interact with the Tai Dam people and learn all about them at the Tai Dam Cultural Centre. You can even choose to stay on in one of the home-stay rooms to get a real feel of the culture and general way of life of these people, who originally migrated from Laos more than 100 years ago to live peacefully in Thailand.
For the adventurous, the opportunity to ride the rapids at Kaeng Khut Khu might prove irresistible. The rapids are located 6 kilometers from Chiang Khan. It is easy to hire a bicycle and cycle to Kaeng Khut Khu, or you can easily arrange a boat trip from Chiang Khan and enjoy a relaxing boat trip along the Mekong River.
Although valued for its peace and quiet, this little village definitely knows how to party. Those arriving during wan awk phansaa at Buddhist Rains Retreat in late October will experience an entirely different atmosphere. Chiang Khan marks the end of Buddhist lent with a week of celebrations. The boat races can get especially wild, and the giant carved wax candles are extremely beautiful. Definitely an event not to be missed.